เวชศาสตร์ฟื้นฟู กับการปวดหลัง 2

          หลังจากที่เราทำความรู้จักกับคำว่า เวชศาสตร์ฟื้นฟู  จากบทความ เวชศาสตร์ฟื้นฟู กับการปวดหลัง 1 ไปแล้วคราวนี้เราจะมาทำรู้จักการนำศาสตร์ในการฟื้นฟูมาใช้ในการรักษาอาการปวดหลังกันค่ะ

          การรักษาอาการปวดหลังนอกจากการใช้ยา การผ่าตัดแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่ใช้กันบ่อยๆก็คือ การทำกายภาพบำบัด หรือการให้การฟื้นฟูสภาพ    การทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการปวดหลังนั้นก็คือการใช้เครื่องมือเพื่อให้ความร้อน ความเย็น หรือเครื่องมือในการดึงหลัง หรือกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้า เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบที่หลัง   นอกจากนั้นแล้วที่สำคัญที่สุดของการฟื้นฟูสภาพหลังก็คือการให้การบริหารกล้ามเนื้อ และกระดูกที่ถูกต้อง และเหมาะสมในแต่ละราย ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายๆไป การให้ความรู้ ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน การทำกิจวัตรประจำวันหรือลดปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง


          นอกจากนี้แล้วในปัจจุบันยังมีการรักษาอื่นๆอีกซึ่งเราเรียกว่าการแพทย์ทางเลือก เช่น การนวดไทย การฝังเข็ม และการใช้โยคะ ซึ่งแต่ละอย่างก็เหมาะสมกับการปวดหลังซึ่งเกิดในภาวะต่างๆไม่เหมือนกัน ที่สำคัญที่สุดการใช้การรักษาแบบอื่นๆนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ที่เชี่ยวชาญจริงๆ และได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากกองประกอบโรคศิลป นอกจากนั้นแล้วก่อนการรักษาด้วยวิธีเหล่านี้น่าจะต้องปรึกษาแพทย์ที่ดูแลอยู่ก่อน  



ที่สำคัญที่สุดสำหรับเรื่องปวดหลังก็คือการป้องกันไม่ให้เกิด ซึ่งน่าจะดีกว่าการปล่อยให้ เกิดอาการปวดแล้วจึงค่อยทำการรักษา  การป้องกันที่สำคัญ ได้แก่ การจัดท่าทาง การทำงานหรือการประกอบกิจวัตรประจำวันให้ถูกต้อง ซึ่งหลักการที่สำคัญก็คือการให้ แนวกระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรงเสมอ ไม่เอียง หรือไม่ทำงานติดตด่อกันนานๆ หรือการทำงานที่ต้องอยู่ในท่าทางที่ยากลำบาก หรือมีการบิดตัวก้มตัวและเอี้ยวตัว และควรหลีกเลี่ยงการทำงานที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหลังมากๆเช่น การยกของหนัก ซึ่งในต่างประเทศมีกฎหมายกำหนดถึงน้ำหนักสูงสุดที่ยกได้ในผู้ชาย และหญิง แต่ในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดดังกล่าว เพราะฉะนั้นคงต้องระวังให้มาก
นอกจากนั้นแล้วการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงไว้เสมอก็เป็นการป้องกัน ไม่ให้เกิดอาการปวดหลังได้ดีเพราะกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนือ้หลัง เป็นกล้ามเนื้อที่คอยตรึงแนวกระดูกสันหลังไม่ให้มีการเคลื่อนไหวมากเกินไปซึ่ง ท่าทางการบริหารมีมากมาย อาจจะต้องปรับให้เหมาะสมในแต่ละคนและที่สำคัญก็คือการควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่นๆเช่นน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไปหรือ ไม่ให้รูปร่างอ้วนเกินไปเพราะการที่มีรูปร่างอ้วนจะ ทำให้แนวกระดูกสันหลังเปลี่ยนไป การใส่รองเท้าที่ส้นสูงเกินไปก็ควรหลีกเลี่ยง สรุปว่าการดูแลตัวเองหรือการป้องกันไม่ให้มีการปวดหลังเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการรักษา

cr : http://www.thaiclinic.com/backpain.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Social Network

   

Popular Posts